สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ประกาศถึงการเปิดจำหน่าย สลากดิจิทัล งวด 16 ส.ค. 65 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ผ่านแอปพลิเคชัน เป๋าตัง โดยในรอบนี้ได้เพิ่มจำนวนสลากขึ้นมาเป็น 9.1 ล้านใบ (2 ส.ค. 2565) สลากดิจิทัล งวด 16 ส.ค. 65 ได้ทำการวางขายแล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เวลา 06.00-23.00 น. ผ่านแอปพลิเคชัน เป๋าตัง โดยในรอบนี้ได้มีการเพิ่มจำนวนสลากขึ้นมาเป็นอยู่ที่ 9.1 ล้านใบ
นายลวรณ แสงสนิท ประธานกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล
ได้ทำการเปิดเผยว่า ภายในการจำหน่ายสลากดิจิทัล งวดประจำวันที่ 16 สิงหาคม 2565 นั้น จะมีการเพิ่มจำนวนสลากที่จำหน่ายขึ้นมาเป็น 9.1 ล้านใบ โดยจะเปิดให้สามารถซื้อได้ตั้งแต่วันที่ 2 สิงหาคม 2565 เป็นต้นไป ตั้งแต่เวลา 06.00-23.00 น. โดยในวันออกรางวัลนั้น จะเปิดให้สามารถซื้อได้ถึงแค่ 14.00 น. สลากดิจิทัลทุกใบจะจำหน่ายในราคา 80 บาท
นายลวรณ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ในงวดดังกล่าวจะมีการเปิดตัวเลือกร้านค้าคนพิการเพิ่มแก่ผู้ซื้อ เพื่อสามารถเลือกซื้อสลากจากตัวแทนจำหน่ายคนพิการได้ และจะพัฒนาให้แอปเป๋าตัง สามารถควบคุมการทำงานด้วยเสียงได้ เพื่อให้ใช้งานได้สำหรับผู้พิการทางสายตา
ส่วนการพิจารณาเพิ่มจำนวนสลากในแอพพลิเคชันเป๋าตังนั้น สำนักงานฯจะทยอยเพิ่มในแนวทางที่เหมาะสม ซึ่งอยากให้จำหน่ายในระยะเวลาที่นานขึ้นประมาณ 7-10 วัน จากเดิมที่จำหน่ายหมดภายใน 1-2 วัน ฉะนั้น ก็จะทยอยเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
คนขับแท็กซี่ถูกลอตเตอรี่ 12 ล้าน เป็นเศรษฐีป้ายแดงชั่วข้ามคืน คนขับแท็กซี่ถูกลอตเตอรี่ 12 ล้าน จาก กองสลากพลัส เป็นเศรษฐีป้ายแดงชั่วข้ามคืน พร้อมแบ่งเพื่อนๆคนล่ะหมื่นหลังลำบากมาด้วยกัน
วันที่ 1 ส.ค. 2565 สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ออกรางวัลงวดประจำวันที่ 1 ส.ค.65 ล่าสุด นอท-พันธ์ธวัช นาควิสุทธิ์ เจ้าของ ‘กองสลากพลัส‘ ได้นำลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 หมายเลข 436594 จำนวน 11 ใบ โดยเป็นเงินทั้งหมด 66 ล้านบาท
ซึ่งมีผู้ถูกรางวัล 2 ราย โดยผู้โชคดีรายแรกคือ คุณสมฤทัย เป็นชาวกทม. ถูกลอตเตอรี่ถึง 4 ใบ รวมเป็นเงิน 24 ล้าน โดยกองสลากพลัสเตรียมโอนเงิน 24 ล้านบาทให้ทันที นอกจากนี้ผู้โชคดีรายที่สองคือ นายฉลองชัย จากสมุทรปราการ เป็นคนขับแท็กซี่ ได้ถูกรางวัลที่ 1 จำนวน 2 ใบ เป็นเงิน 12 ล้าน และได้เดินทางมารับเงินสดที่สำนักงานพร้อมเพื่อนๆ โดยนายฉลองชัยได้แบ่งเงินให้เพื่อนๆคนละ 1 หมื่นบาท โดยบอกว่าตนกับเพื่อนลำบากมาด้วยกัน จะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง
ราชกิจจาฯ ร่อนประกาศ ห้ามมั่วสุม ป้องกันโควิดระบาด
ราชกิจจานุเบกษา ร่อนประกาศคำสั่ง ห้ามมั่วสุม ห้ามชุมนุม ห้ามทำกิจกรรม ที่ก่อให้เกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 หวั่นโควิดทวีความรุนแรง เว็บไซต์ ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศห้ามมั่วสุม เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ผ่านประกาศเรื่อง ห้ามการชุมนุม การทำกิจกรรม การมั่วสุม ที่ก่อให้เกิดการแพร่ระบาดของโรคติดโรคโควิด-19 โดยประกาศฉบับนี้กล่าวว่า
1. ให้ยกเลิกประกาศหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินในส่วนที่เกี่ยวกับ ความมั่นคง เรื่อง ห้ามการชุมนุม การทำกิจกรรม การมั่วสุม ลงวันที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2563 ประกาศหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินในส่วนที่เกี่ยวกับความมั่นคง
เรื่อง ห้ามการชุมนุม การทำกิจกรรม การมั่วสุม ที่ก่อให้เกิดการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19 ) (ฉบับที่ 8) ลงวันที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2564 และประกาศหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินในส่วนที่เกี่ยวกับความมั่นคง เรื่อง ห้ามการชุมนุม การทำกิจกรรม การมั่วสุม ที่ก่อให้เกิดการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19 ) (ฉบับที่ 14) ลงวันที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564
2. ห้ามมิให้มีการมั่วสุมในลักษณะที่เสี่ยงต่อการแพร่โรค หรือการกระทำอันเป็นการฉวยโอกาส ซ้ำเติมความเดือดร้อนของประชาชน หรือการกลั่นแกล้งเพื่อแพร่โรค ณ ที่ใด ๆ ทั่วราชอาณาจักร
3. ห้ามมิให้มีการชุมนุม หรือการทำกิจกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่โรค ในพื้นที่ที่มีประกาศหรือคำสั่งกำหนดเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด พื้นที่ควบคุมสูงสุด พื้นที่ควบคุม และพื้นที่เฝ้าระวังสูง เว้นแต่กรณีได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ หรือกิจกรรมที่ได้รับการยกเว้น โดยให้ดำเนินการตามข้อกำหนด (ฉบับที่ 47) ลงวันที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2565 และข้อกำหนด (ฉบับที่ 37) ลงวันที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2564 ประกาศขยาย พ.ร.ก.ฉุกเฉิน อีก 2 เดือน ถึง 30 ก.ย. 65 “โควิดอาจทวีความรุนแรงมากขึ้น”
4. การชุมนุม หรือการทำกิจกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่โรคในพื้นที่ที่มีประกาศหรือคำสั่งกำหนดเป็นพื้นที่เฝ้าระวัง ให้ดำเนินการตามข้อกำหนด (ฉบับที่ 47) ลงวันที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2565 และข้อกำหนด (ฉบับที่ 46) ลงวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2565
5. ให้นำหลักเกณฑ์การจัดและการแจ้งการชุมนุม รวมทั้งหน้าที่ของผู้จัดและผู้ชุมนุม ตามที่กำหนดในกฎหมายว่าด้วยการชุมนุมสาธารณะมาใช้โดยอนุโลม หากผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามประกาศนี้ ต้องรับโทษตามมาตรา 18 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ในกรณีที่มีการออกข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการ ในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ฉบับใหม่ ให้ประกาศฉบับนี้ยังคงใช้บังคับได้ต่อไปเท่าที่ไม่ขัด หรือแย้งกับข้อกำหนดฉบับใหม่ดังกล่าว
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2565 เป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2565
Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป